Message from the chairman

การดำเนินงานในปี 2567 ของกลุ่มบริษัท พี อาร์ จี คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“กลุ่มบริษัท พี อาร์ จีฯ”) มุ่งมั่นสร้างการเติบโตและผลกำไรที่ยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น และยังให้ความสำคัญในกระบวนการทำงานที่สมบูรณ์ โดยเริ่มต้นจากความต้องการของลูกค้า และนำไปสู่จุดเริ่มต้นของการทำงานเพื่อตอบสนองความพึงพอใจของลูกค้าให้มีประสิทธิภาพที่สูงสุดของแต่ละบริษัท รวมถึงเชื่อมต่อการทำงานของทุกบริษัทในด้านการสนับสนุนงานที่ต้องดำเนินการ ด้วยระบบการบริหารงานส่วนกลางที่ช่วยไม่ให้เกิดการทำงานที่ซ้ำซ้อน แต่ยังคงสามารถตรวจสอบวิธีการทำงานไม่ให้เกิดความผิดพลาด ทำให้เกิดการประสานงานที่ดีขึ้นในทุกบริษัทของกลุ่ม พี อาร์ จีฯ ซึ่งเป็นไปตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ

บริษัทฯ มีนโยบายที่จะสร้างผลตอบแทนให้แก่ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องให้ได้อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2567 ที่ผ่านมานี้ยังคงมีผลกระทบจากกำลังซื้อของผู้บริโภคในธุรกิจข้าวมาบุญครองบางช่องทาง แต่ผลการดำเนินงานในภาพรวมของบริษัทฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ยังคงดีขึ้นเมื่อเทียบกับปี 2566 ดังนี้

รายได้จากการดำเนินงานสุทธิ 2,878 ล้านบาท โดยรายได้รวมเพิ่มขึ้น 538 ล้านบาท คิดเป็นรายได้ขายที่เพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ 22.99 จากปีที่ผ่านมา เป็นผลมาจากการที่กลุ่มบริษัท พี อาร์ จีฯ มียอดขายวัตถุดิบและรายได้จากการให้เช่าและบริการเพิ่มขึ้น และมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 429 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 83 ล้านบาท คิดเป็นประมาณร้อยละ 24 จากปีที่ผ่านมา โดยเพิ่มขึ้นจากกำไรจากการขายและบริการ และค่าใช้จ่ายที่ลดลง ส่วนฐานะการเงินของกลุ่มบริษัท พี อาร์ จีฯ ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีสินทรัพย์รวม 13,377 ล้านบาท มีหนี้สินรวม 2,612 ล้านบาท และมีส่วนของผู้ถือหุ้นรวม 10,765 ล้านบาท

ธุรกิจข้าวและผลิตภัณฑ์อาหาร บริษัทได้มีการปรับกลยุทธ์โดยเป็นการเน้นการจำหน่ายข้าวในกลุ่มข้าวสุขภาพ ข้าวอร่อย และข้าวอิ่ม เพื่อให้ตรงและสอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งในปี 2567 มีความผันผวนของราคาวัตถุดิบ และความผันผวนจากความต้องการของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้เกิดการแข่งขันค่อนข้างสูง บริษัทฯ จึงระมัดระวังในการดูแลในเรื่องดังกล่าว อีกทั้งกำลังซื้อของผู้บริโภคในแต่ละช่องทางขายทั้งในประเทศและต่างประเทศมีความแตกต่างกัน เพื่อให้ชนิดสินค้าที่ตรงตามความต้องการและกำลังซื้อของผู้บริโภค บริษัทจึงได้จัดแบ่งช่องทางการขายที่เหมาะสม ทำให้มีรายได้การขาที่เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา

ในปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับรางวัล Thailand Trust Mark (T Mark) จากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งรางวัลนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความภาคภูมิใจ และการันตีคุณภาพของสินค้าและบริการที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล รวมถึงได้รับเครื่องหมายสัญลักษณ์พนมมือติดดาว จากกระทรวงพาณิชย์เป็นปีที่ 18 ติดต่อกัน ในการรับรองคุณภาพข้าวหอมมะลิที่มีคุณภาพดีพิเศษ

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้ตัดสินใจยุติการดำเนินธุรกิจส่งออกสินค้าไปต่างประเทศ เนื่องจากมีความเสี่ยงจากความ ผันผวนของค่าเงินบาท ตลอดจนความไม่แน่นอนในการชำระหนี้ของลูกค้า ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้ในอนาคต

ธุรกิจศูนย์อาหาร มีการปรับตัวที่ดีขึ้นเมื่อเทียบปีที่ผ่านมา และจำนวนผู้ใช้บริการของศูนย์อาหารมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแต่ยังคงไม่เทียบเท่ากับช่วงก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) รวมถึงการแข่งขันที่สูงขึ้นสำหรับร้านอาหารในทุกศูนย์การค้า และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้พิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการมุ่งเน้นการให้บริการด้านเครื่องดื่ม เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของผู้บริโภคในทุกช่วงเวลา จึงได้มีการปรับปรุงและตกแต่งร้านเครื่องดื่มในศูนย์อาหารซึ่งเป็นการบริหารจัดการโดยศูนย์อาหารของเราเอง โดยให้มีรายการเครื่องดื่มที่ความหลากหลายและสร้างจุดดึงดูดให้มีลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน พร้อมทั้งมุ่งเน้นการคัดสรรร้านอาหารดังระดับตำนานที่ได้รับการเล่าขานด้านความอร่อย สะอาด และราคาย่อมเยาว์มารวบรวมไว้ในศูนย์อาหาร

ธุรกิจพัฒนาทรัพย์สิน บริษัท พี อาร์ จี พร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด ดำเนินการให้เช่าพื้นที่ และสถานที่สำหรับการ จัดงานอีเว้นท์ ถ่ายหนัง ละคร โฆษณา การจัดงานแสดงต่างๆ บนลานกิจกรรมทั้งกลางแจ้งและในร่ม ส่วนบริษัท ริเวอร์เดล มารีน่า จำกัด ดำเนินงานและบริหารจัดการท่าเรือยอร์ชริมแม่น้ำเจ้าพระยา ระดับ A-Class ครบวงจรซึ่งประกอบด้วย ท่าเรือริเวอร์ยอร์ช พื้นที่ให้เช่าเก็บเรือ โชว์รูมเรือ ศูนย์ซ่อมบำรุงเรือ และบริการเกี่ยวกับเรือ ปั๊มน้ำมันริมแม่น้ำ และในปีที่ผ่านมา ริเวอร์เดล มารีน่า เป็น มารีน่าที่มีผู้นำเรือมาฝากเก็บมากที่สุดแห่งหนึ่งในริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยมีเรือมากกว่า 65 ลำ และได้รับรางวัล The International Clean Marina ซึ่งถือเป็นรางวัลที่การันตีคุณภาพทั้งในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและบริการ อีกทั้งยังผ่านการรับรองมาตรฐานของสถานที่จัดงานประเทศไทย หรือ Thailand MICE Venue Standards (TMVS) ประเภทสถานที่จัดงาน Special Event โดยสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.)

ธุรกิจพลังงานทดแทนแบบสะอาด บริษัทได้มีการพิจารณาดำเนินการธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้ปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐ และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และความต้องการพลังงานสะอาดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าวทำให้ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ มีศักยภาพที่จะสร้างมูลค่าทางธุรกิจที่มั่นคง พร้อมทั้งสามารถสร้างผลกำไรที่ยั่งยืนในอนาคตของบริษัท

ด้านการกำกับดูแลกิจการที่ดี คณะกรรมการบริษัทได้ตระหนักและให้ความสำคัญในการบริหารจัดการ ตามหลักการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อให้กลุ่มบริษัท พี อาร์ จีฯ มีการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน และรับผิดชอบต่อสังคมรวมทั้งผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน โดยในปี 2567 ได้รับการประเมินผลการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนในระดับ “ดีเลิศ (Excellent) หรือ 5 ดาว” ติดต่อกัน 8 ปี ซ้อนตั้งแต่ปี 2560 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) นอกจากนี้ บริษัทฯ เป็นสมาชิกของแนวร่วมต่อต้านคอร์รัปชันของภาคเอกชนไทย (Private Sector Collective Action Coalition Against Corruption หรือ CAC) มาโดยตลอด

ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ในการนำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

กลุ่มบริษัทฯ ยังคงพัฒนาบุคลากรควบคู่กับการพัฒนาองค์กร และให้ความสำคัญต่อทุกภาคส่วน เพื่อให้คนทำงานมีความสุข ที่ทำงานน่าอยู่ ชุมชนสมานฉันท์ และมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงและการเติบโตอย่างยั่งยืน ทำให้บริษัทฯ ได้รับรางวัลโครงการดูแลส่งเสริมสุขภาพพนักงาน (Healthy Living) จากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (ส.ส.ส) รางวัลสถานประกอบการกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานระดับประเทศ จากกระทรวงแรงงาน และรางวัล Sustainability Disclosure Recognition จากสถาบันไทยพัฒน์ ที่แสดงถึงการตระหนักและให้ความสำคัญกับการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนอันเป็นประโยชน์ต่อกลุ่มผู้มีส่วนได้เสียของบริษัท ซึ่งคณะกรรมการ และผู้บริหาร มีความมั่นใจว่าจะสามารถนำพาบริษัทในกลุ่มบริษัท พี อาร์ จีฯ ไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

ในนามของคณะกรรมการบริษัท ขอขอบคุณท่านผู้ถือหุ้น ลูกค้า พันธมิตรทางธุรกิจ คณะผู้บริหาร ตลอดจนพนักงานทุกท่านที่มีส่วนสนับสนุน และสร้างความสำเร็จด้วยดีตลอดมา และขอให้เชื่อมั่นว่า บริษัทฯ จะดำเนินธุรกิจด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท ปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลัง เพื่อขับเคลื่อนให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักธรรมาภิบาลและการกำกับดูแลกิจการที่ดี เพื่อสร้างความเติบโต มั่งคั่งและผลตอบแทนของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป

นายศุภเดช พูนพิพัฒน์
ประธานกรรมการ
นายปกิต เอี่ยมโอภาส
ประธานกรรมการบริหาร
นายบูลพัฒน์ วิศรุตวงศ์
รักษาการกรรมการผู้จัดการใหญ่